ชนเผ่าพื้นเมืองแวมปิส ก่อตั้งรัฐบาลปกครองตนเองแห่งดินแดนแวมปิส (The Autonomous Territorial Government of the Wampis Nation – GTANW) ในปี 2558 เพื่อปกครอง จัดการ และปกป้องดินแดนของตน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 1,327,760 เฮกตาร์ของป่าฝนที่ราบลุ่มทั่วลุ่มน้ำซานติอาโก/เคานัส (Santiago/Kanus) และ โมโรนา/คันกะอิม (Morona/Kankaim) ทางตอนเหนือของในป่าอะเมซอนประเทศเปรู
GTANW กำเนิดขึ้นตามกระบวนการที่เป็นธรรมชาติจากการต่อสู้ทางสังคมและประวัติศาสตร์เพื่อศักดิ์ศรีและการปกป้องสิทธิในดินแดน สังคม วัฒนธรรม การศึกษา และเศรษฐกิจ วิสัยทัศน์ของรัฐคือเพื่อทำให้แน่ใจว่ามีความต่อเนื่องของการดำรงอยู่ทางชีวกายภาพ(biophysical) และวัฒนธรรมของหนึ่งในวัฒนธรรมอะเมซอนที่มีอายุนับพันปีของประเทศเปรู – ซึ่งนั้นก็คือการมีอยู่ของชนชาติแวมปิส ซึ่งขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่แยกกันไม่ออกและมีประโยชน์ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ โดยมุ่งไปสู่ตารีมัตปุจุด (Tarimat Pujut – ชีวิตที่ครบถ้วนบริบูรณ์)
ประเทศ: ประเทศเปรู
เว็บไซต์: nacionwampis.com
Twitter: NacionWampis
Facebook: @Gobierno Territorial Autónomo de la Nación Wampís
Teofilo Kukush Pati, Pamuk in Kankaim. Photo by Evaristo Pujupat/GTANW
Wampis assembly in Kankaim. Photo by Evaristo Pujupat/GTANW
Wampís women at the Nugkui festival. Photo by Evaristo Pujupat/GTANW
Dashed line
งานหลักของ GTANW:
ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา GTANW ได้พัฒนาวิธีการแบบมีส่วนร่วมเพื่อจัดการและปกป้องผืนดินที่มีความหลากหลายทางชีวภาพเป็นอย่างมาก โดยต้องเผชิญกับแรงกดดันจากภายนอกและภัยคุกคามจากการตัดไม้ การทำเหมือง และการสกัดน้ำมัน พวกเขายังทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาภายใน เช่น การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชนเพื่อทำให้มั่นใจถึงความเป็นอยู่ที่ดีและคุณภาพชีวิตของคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนชายขอบ (ผู้หญิงและเยาวชน)
Women at work in Alto Santiago. Photo by Evaristo Pujupat/GTANW
Dashed line
บทบาทของ GTANW ในโครงการวิถีแห่งการเปลี่ยนแปลง:
GTANW มีเป้าหมายที่จะรวมระบบการปกครองดินแดนชุมชนของชนเผ่าพื้นเมืองแวมปิส ร่วมกับชุมชนที่เข้าร่วม พวกเขายังมีการจัดระเบียบ วางแผน และดำเนินการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและโครงการริเริ่มการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนต่างๆซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทั่วอาณาเขตของแวมปิส
GTANW ยังเป็นผู้นำและเอื้ออำนวยการรณรงค์ต่อผู้มีอำนาจสำคัญในการตัดสินใจทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ เกี่ยวกับนโยบายเชิงการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและดินแดนของชนเผ่าพื้นเมือง
